| ||||||
วันอาทิตย์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2556
เทคนิคการเลี้ยงปลาสวยงาม
ปลาสวยงามหายากชนิดต่างๆ
ฝักพร้า ดาบลาว ท้องพลุ
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Macrocheilichthys macrocheilus
วงศ์ : Cyprinidae
วงศ์ย่อย : Oxygastrini
ขนาด : 20-60 ซ.ม.
ลักษณะ :
ลำตัวยาวและแบนข้างคล้ายมีดดาบ ท้องเป็นสันแคบ ตาโต
ปากกว้างเฉียงขึ้นด้านบน ปลายปากล่างโค้งเข้าเล็กน้อยคล้ายขอ
ลำตัวสีเงินวาว ครีบใส ครีบอกใหญ่และยาวแหลม ครีบท้องและครีบหลังเล็ก
แต่ครีบก้นมีฐานครีบยาว ครีบหางเว้าลึกและปลายมน โคนครีบหางมีแต้มสีคล้ำ
อาหาร : ปลาขนาดเล็กและแมลง
พฤติกรรม : มักล่าเหยื่อใกล้ผิวน้ำ ว่ายน้ำได้เร็วมาก
ถิ่นอาศัย : แม่น้ำและแหล่งน้ำหลาก ปัจจุบันพบน้อย
สถานภาพ : ใกล้สูญพันธุ์
สะนากยักษ์ สะนากปากเบี้ยว
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Aaptosyax grypus
วงศ์ : Cyprinidae
วงศ์ย่อย : Oxygastrini
ขนาด : 60-100 ซ.ม.
ลักษณะ : มีปากกว้าง
ขากรรไกรโค้งคล้ายกรรไกรตัดหมาก ตามีเยื่อไขมันคลุม ลำตัวทรงกระบอก
มีเกล็ดเล็ก ลำตัวสีเงินวาวเหลือบเหลืองทอง ครีบสีส้มเรื่อ ๆ
อาหาร : ปลาที่อยู่ตามผิวน้ำ
พฤติกรรม : ผสมพันธุ์ในฤดูแล้ง ลูกปลาเลี้ยงตัวในลำธารแม่น้ำสาขา
ถิ่นอาศัย : เฉพาะในแม่น้ำโขงและสาขาที่เป็นแก่งหิน
สถานภาพ : ใกล้สูญพันธุ์อย่างวิกฤต
สะตือ ตองแหล่
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Chitala lopis
วงศ์ : Notopteridae
ความยาว : 50-150 ซ.ม.
ลักษณะ : คล้ายปลากราย แต่ท้ายทอยเว้าลึกและลำตัวมีเกล็ดละเอียดกว่า โคนครีบอกมีแต้มคล้ำ และข้างลำตัวมีจุดประสีคล้ำเล็กๆ
อาหาร : ปลา กุ้ง แมลงน้ำ และสัตว์น้ำขนาดเล็กอื่นๆ
พฤติกรรม : ชอบอาศัยอยู่บริเวณที่มีกิ่งไม้ใต้น้ำหรือพรรณพืชน้ำค่อนข้างหนาแน่น
หมากผาง
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Tenualosa thibaudeaui
วงศ์ : Clupeidae
ขนาด : 20-25 ซ.ม.
ลักษณะ : คล้ายปลาซาร์ดีน แต่ลำตัวกว้างกว่า ปากกว้าง มีเยื่อคลุมตา เกล็ดใหญ่แต่หลุดร่วงง่าย ลำตัวสีเงิน ด้านข้างมีแต้มสีน้ำเงินอมม่วง
อาหาร : แพลงก์ตอนและอินทรีสาร
พฤติกรรม : มีการอพยพขึ้นลงในแม่น้ำโขงและลำน้ำสาขาเพื่อวางไข่และหากิน
ถิ่นอาศัย : พบเฉพาะในลุ่มน้ำแม่โขง
สถานภาพ : ใกล้สูญพันธุ์
ซิวหัวตะกั่วสุโขทัย ท้องพลุ ซิวหัวตะกั่ว
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Chela caeruleostigmata
วงศ์ : Cyprinidae
วงศ์ย่อย : Danioninae Danionini
ขนาด : 5-7 ซ.ม.
ลักษณะ : ลำตัวแบนข้างมาก
ปากเล็ก ด้านบนหัวมีแต้มสีฟ้าเรืองแสงคล้ายของปลาหัวตะกั่ว ครีบอกยาว
เกล็ดเล็กหลุดร่วงง่าย ลำตัวสีเงินวาว ข้างลำตัวมีแถบสีคล้ำ
อาหาร : แมลงขนาดเล็ก
พฤติกรรม : อยู่เป็นฝูงเล็ก ๆ ชอบว่ายน้ำอยู่ใกล้ผิวน้ำ กระโดดได้สูง
ถิ่นอาศัย : แม่น้ำสายหลักและสาขาที่มีพรรณไม้ชายฝั่ง
สถานภาพ : ใกล้สูญพันธุ์ จากการสูญเสียถิ่นอาศัย
5 อันดับ ปลาที่น่ากลัวที่สุดในโลก
ปลาที่น่ากลัวที่สุดในโลก อันดับที่1 Fanfin Seadevil
ปลาปีศาจ ครีบพัด (Fanfin Seadevil) หรือ
Caulophryne jordani เป็น ปลาน้ำลึก ในตระกูล Anglerfish ปลาปลาปีศาจ
ครีบพัด ( Fanfin Seadevil ) มีสี่งที่แปลก และ โดดเด่นกว่า ปลาในตระกูล
Anglerfish ทั่วไปคือ พวกมันไม่มีหงอนเรืองแสงบนหัว
ที่ใช้สำหรับล่อเหยื่อในที่มืด และทั่วทั้งร่างมีครีบยาว คล้ายพัด
เช่นเดียวกับปลาใน ตระกูล Anglerfish เพศผู้มีขนาดเล็กกว่ามากเพศเมีย
เพศผู้เมื่อโตเต็มที่จะมีขนาด เพียง 0.5 นิ้ว (1.27 เซ็นติเมตร)
ส่วนเพศเมียจะมีขนาดใหญ่ได้ถึง 10 นิ้ว (25 เซ็นติเมตร ความยาวไม่รวมหนวด)
การที่เพศผู้มีขนาดเล็ก และเพศเมีย มีขนาด ใหญ่นั้นเกิดจากอุปนิสัยที่
เมื่อตัวผู้พบ ตัวเมีย ตัวผู้จะเกาะติดตัวเมียด้วยปาก ทำตัว เหมือนกาฝาก
โดยดูดเลือดของตัวเมียเป็นอาหาร และเมื่อนานวันตัวผู้จะศูนย์เสีย
การมองเห็น และประสาทสัมผัสต่างไป และหลอมรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของตัวเมีย
ปลาที่น่ากลัวที่สุดในโลก อันดับที่2 Lamprey
ปลาแลมเพรย์เป็นปลาไหลชนิดหนึ่ง ลำตัวด้านหลังมักจะเป็นสีดำ
มีครีบหลังและครีบหาง แต่ไม่มีครีบคู่ ไม่มีเกล็ด
ปากจะอยู่ค่อนลงมาทางด้านท้อง มีลักษณะคล้าย แว่นใช้สำหรับดูด
ปากกลมซึ่งไม่จำเป็นต้องมีกล้ามเนื้อขนาดใหญ่ขึ้นมาบังคับขากรรไกรให้อ้าและ
หุบแบบปัจจุบัน
พวกมันต้องการเพียงปากที่มีตะขอสำหรับเกาะเหยื่อเพื่อดูดเลือดสัตว์อื่นเป็น
อาหาร และดำรงชีพเป็นปรสิตเมื่อดูดเลือดของเหยื่อจน
ตัวเหยื่อแห้งก็จะปล่อยแล้วหาเหยื่อใหม่
ปลาที่น่ากลัวที่สุดในโลก อันดับที่3 Blob Fish
ปลาบร็อบ
ถูกพบในระดับความลึกที่มีแรงดันมากกว่าปกติ ถึง 12
เท่าทำให้ถุงลมขาดประสิทธิภาพ เพื่อที่ปลา สามารถลอยตัวได้ (
ที่รู้จักกันในชื่อ “กระเพาะปลา”
มีหน้าที่ เก็บกักอากาศ หรือปล่อยอากาศออกเพื่อประโยชน์ในการลอยตัว
หรือดำน้ำ ) ปลาจึงมีเนื้อที่มีลักษณะเป็นวุ้น มีความหนาแน่น
น้อยกว่าน้ำเล็กน้อย เพื่อให้สามารถ ลอยตัวเหนือพื้นทะเล
โดยใช้พลังงานน้อยที่สุดในการลอยตัว และว่ายน้ำ จึงทำให้ ปลาบร็อบ
ไม่จำเป็นต้องมีกล้ามเนื้อ และข้อดีอย่างแรกก็คือมันสามารถทิ้งตัวลงมา
จับเหยื่อจากด้านบนจึงเป็นการดีกว่าจะเข้า
จู่โจมจากด้านหน้าที่อาจจะได้รับอันตราย จากการที่เหยื่อต่อสู้
ปลาที่น่ากลัวที่สุดในโลก อันดับที่4 Basking Shark ยักษ์ใหญ่ผู้ใจดีแห่งท้องทะเลใหญ่ เป็นอันดับสองรองจากฉลามวาฬ
ฉลามบาสกิ้น ความจริงยังมีฉลามอีกมากควรติดอันดับ เช่น ฉลามยักษ์เมกาโลดอน ( Megalodon Sharkหรือฉลามเมกาเมาทธ์ ( MegaMouth ) แต่ดูเหมือนว่า ฉลามบาสกิ้น
จะดูโดดเด่นที่สุดในอันดับของเรา โดยฉลามชนิดนี้เป็น
ยักษ์ใหญ่ผู้ใจดีแห่งท้องทะเลใหญ่ เป็นอันดับสองรองจากฉลามวาฬ ยาวประมาณ
12.27 เมตร หนักกว่า 19 ตัน มีรายงานการพบปลาขนาดใหญ่ที่นอร์เวย์วัดได้ยาว
12 เมตร มีปากขนาดใหญ่
แต่กินแพลงตอนเป็นอาหารโดยปากของมันจะเหมือนตัวกรองที่สามารถดูดน้ำเข้าปาก
ได้ 2000 ตันต่อชั่วโมง
ปลาที่น่ากลัวที่สุดในโลก อันดับที่5 แฮคฟีช (hagfish)
แฮคฟีช (hagfish) รูปร่างเหมือนทากหรือปลิงแต่ความจริงแล้วเป็นปลา เป็นปลา
ไม่มีขากรรไกรที่อาศัยอยู่ในทะเล โดยการกินปลาตาย
หรือใกล้ตายรวมทั้งสัตว์ไม่ มีกระดูกสันหลังที่มีลำตัวอ่อนนุ่ม
กลุ่มหนอนปล้อง มอลลัสและครัสเตเชียน ดังนั้น แฮคพีช จึงไม่เป็นปาราสิต
และไม่ได้เป็นสัตว์ล่าเหยื่อ แต่ค่อนมาทางกินซากสัตว์ มากว่า
แฮคฟีชมีประมาณ 32 ชนิด ชนิดที่รู้จักกันดีในอเมริกาเหนือ ในมหาสมุทร
แอตแลนติก
ปลาที่ตัวเล็กที่สุดในโลก
“Paedocypris progenetica” เป็นชื่อทางวิทยาศาสตร์น่ะครับชื่อไทยไม่รู้เรียกว่าอะไร ที่ว่ามันตัวเล็กที่สุดในโลกนั้นก็เพราะว่ามันมีขนาดแค่ 7.9 มิลลิเมตรเท่านั้น ตัวโตเต็มที่น่ะครับไม่ใช่ลูกปลา แทบจะเล็กสั้นกว่าเล็บมือของคนเราเสียอีกน่ะ เจ้าปลาตัวนี้ถูกค้นพบหนองน้ำบนเกาะในอินโดนีเซีย ซึ่งมีความแปลกตรงที่หนองน้ำดังกล่าวมีลักษณะเป็นกรดสูง( ค่า pH. = 3 ซึ่งนั้นแสดงว่ามีความเเข้มข้นกว่าน้ำฝน 100 เท่า) น้ำมีลักษณะคล้ายน้ำชาสีดำเหว๋อๆ ปลามันไปอยู่ได้ยังไง
นอกจากปลาตัวที่ว่านี้จะเป็นปลาที่ตัวเล็กที่สุดในโลกแล้ว มันยังพ่วงตำแหน่งของสัตว์ที่มีกระดูกสันหลังที่ตัวเล็กที่สุดในโลกอีกด้วย น่ะครับ แม้ๆ มันตัวเล็กจริงๆ ต้องยอมรับในความสามารถของคนเราจริงๆ ที่สามารถไปค้นหาค้นพบมันได้ การเรียนรู้ไม่มีขีดจำกัดจริงๆ
วันเสาร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2556
ปลากัด
ปลากัด
ขนาดโตเต็มที่ประมาณ 6 เซนติเมตร พบกระจายอยู่ทั่วไปในแหล่งน้ำนิ่งที่มีขนาดตื้นพื้นที่เล็กทั้งในภาคกลางและภาคเหนือในประเทศไทยเท่านั้น สถานะปัจจุบันในธรรมชาติถูกคุกคามจากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปและสารเคมีที่ตกค้าง
มีพฤติกรรมชอบอยู่ตัวเดียวในอาณาบริเวณแคบ ๆ เพราะดุร้ายก้าวร้าวมากในปลาชนิดเดียวกัน ตัวผู้เมื่อพบกันจะพองตัว พองเหงือก เบ่งสีเข้ากัดกัน ซึ่งในบางครั้งอาจกัดได้จนถึงตาย เมื่อผสมพันธุ์ ตัวผู้จะเป็นฝ่ายก่อหวอดติดกับวัสดุต่าง ๆ เหนือผิวน้ำ ไข่ใช้เวลาฟัก 2 วัน โดยที่ปลาตัวผู้จะเป็นฝ่ายดูแลไข่และตัวอ่อนเอง โดยไม่ให้ปลาตัวเมียเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
ปลากัดเป็นปลาที่คนไทยรู้จัก เป็นอย่างดีมาแต่โบราณ โดยปลากัดสายพันธุ์ดั้งเดิมจากธรรมชาติมักเรียกติดปากว่า "ปลากัดทุ่ง" หรือ "ปลากัดลูกทุ่ง" หรือ "ปลากัดป่า" จากพฤติกรรมที่ชอบกัดกันเองแบบนี้ ทำให้นิยมนำมาเลี้ยงใช้สำหรับกัดต่อสู้กันเป็นการพนันชนิด หนึ่งของคนไทย และได้มีการพัฒนาสายพันธุ์และความสามารถในชั้นเชิงการกัดจนถึงปัจจุบัน จนเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของประเทศไทยและเป็นที่รับรู้ของชาวต่างชาติในชื่อ "Siamese fighting fish"
ในปัจจุบัน ปลากัดภาคกลางได้ถูกพัฒนาสายพันธุ์ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น มีสีสันที่สวยงามและหลากหลายขึ้น เรียกว่า "ปลากัดหม้อ" นิยมเลี้ยงในภาชนะขนาดเล็กและแคบ เช่น ขวดโหล, ขวดน้ำอัดลม เป็นต้น อีกทั้งยังได้พัฒนาสายพันธุ์ในแง่ของความเป็นปลาสวยงามอีกหลายสายพันธุ์ เช่น "ปลากัดจีน" ที่มีเครื่องครีบยาว "ปลากัดแฟนซี" ที่มีสีสันหลากหลายสวยงาม "ปลากัดคราวน์เทล" หรือ "ปลากัดฮาร์ฟมูน" เป็นต้น
ปลาที่สวยงามที่สุดในโลก
ปลาแมนดาริน
มีขนาดความยาวเต็มที่ไม่เกิน 8 เซนติเมตร แต่โดยเฉลี่ยแล้วมีขนาดเล็กกว่านี้ถึงครึ่งหนึ่ง โดยสีต่าง ๆ เหล่านี้สามารถปรับให้เข้มหรืออ่อนได้ตามสภาพแวดล้อมและสถานการณ์ ในปลาตัวผู้สีจะเข้มขึ้นเมื่อต่อสู้กันหรืออยู่ในช่วงผสมพันธุ์ ปลาตัวผู้และตัวเมียมีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด โดย ตัวผู้จะมีครีบหลังเป็นกระโดงยาวยืดออกมา ขณะที่ตัวเมียไม่มี และตัวผู้มีส่วนหัวที่ใหญ่กว่า
ปลาแมนดารินมีอุปนิสัยก้าวร้าวพอสมควร โดยเฉพาะกับปลาชนิดเดียวกัน โดยเฉพาะตัวผู้จะมีอาณาเขตที่ชัดเจน หากพบผู้บุกรุกจะกางครีบต่าง ๆ และเบ่งสีเพื่อข่มขู่ อีกทั้งยังถือเป็นปลาที่มีพิษชนิดหนึ่ง เพราะเมือกที่ปกคลุมลำตัวนั้นมีพิษ ใช้กันสำหรับเมื่อตกเป็นอาหารของสัตว์น้ำหรือปลาที่มีขนาดใหญ่กว่า
พฤติกรรมเมื่อผสมพันธุ์ จะสวยงามมาก เมื่อตัวผู้เป็นฝ่ายว่ายไปรอบ ๆ ตัวเมียเพื่อเกี้ยวพาจนแลดูเหมือนกับการเต้นรำ ซึ่งถือว่าเป็นปลาที่ปล่อยไข่ให้ลอยไปตามกระแสน้ำ ก่อนที่ตัวผู้จะปล่อยน้ำเชื้อเข้าไปผสม
ปลาสวยงาม
ปลาสวยงาม
ปลาสวยงาม หรือ ปลาตู้ คือ ปลาที่มนุษย์เลี้ยงไว้เป็นสัตว์เลี้ยงเพื่อความเพลิดเพลินหรือเพื่อความสวยงาม ไม่ใช่เพื่อการบริโภค หรือสัตว์น้ำจำพวกอื่น ที่ไม่ใช่ปลาแต่มีการนำมาเลี้ยงเพื้อการเดียวกัน เช่น เครย์ฟิช นิยมเลี้ยงไว้ในสถานที่ต่าง ๆ ในบ้านพักอาศัย อาทิ ตู้ปลา, บ่อ หรือสระ ถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของการประมงประวัติ
ไม่มีหลักฐานใดที่ยืนยันแน่ชัดว่า มนุษย์เริ่มรู้จักเลี้ยงปลามาตั้งแต่เมื่อใด โดยนักโบราณคดีได้ค้นพบบ่อปลาที่เก่าแก่ที่สุดในยุคสุเมเรียนซึ่งมีอายุกว่า 4,500 ปีมาแล้ว และปลาชนิดแรกที่เชื่อว่าเป็นปลาที่มนุษย์ได้เลี้ยงคือ ปลาคาร์ป ซึ่งทั้งหมดนี้มีไว้เพื่อการบริโภค[1]สำหรับการเลี้ยงไว้เพื่อความสวยงาม ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าเริ่มต้นขึ้นเมื่อใดอีกเช่นกัน ในประเทศจีนและญี่ปุ่นได้มีการพัฒนาสายพันธุ์ปลาทอง รวมถึงปลาคาร์ป ให้มีรูปร่างและสีสันที่สวยงามแตกต่างไปสายพันธุ์ดั้งเดิมที่มีอยู่ใน ธรรมชาติ มาแล้วไม่ต่ำกว่า 300-400 ปี โดยมีการส่งออกไปทวีปยุโรปตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 และถูกส่งมาเป็นบรรณาการในรัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ในศตวรรษที่ 19 ด้วย[2][3]
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)